ถ้าพูดถึง adjective หรือ คำคุณศัพท์ ก็คิดว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าคำเหล่านี้มีหน้าที่ขยายคำนามโดยจะมีตำแหน่งเด่นชัด 2 ตำแหน่ง คือ หน้าคำนาม และ หลัง linking verb อาทิ
A cutegirl sits over there. และ She looks so cute.
แต่หารู้ไม่ว่าการใช้ adjective นั้นไม่ได้จำกัดจำนวนในการขยายคำนามนั้นๆ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียงคำ Adjective ในภาษาอังกฤษเกิดขึ้นเพื่อระบุให้แน่ชัดว่าคำนามนั้นมีลักษณะรูปร่างแบบใด โดยขั้นตอนการเรียง adjective นั้นมีดังนี้
Article |
Amount |
Opinion |
Size |
Shape |
Condition |
Age |
Color |
Pattern |
Origin |
Material |
Purpose |
Noun |
คำนำหน้านาม |
จำนวน |
ความคิดเห็น |
ขนาด |
รูปร่าง |
เงื่อนไข/สภาพ |
อายุ |
สี |
รูปแบบ |
แหล่งกำเนิด |
วัตถุดิบ |
จุดประสงค์ |
คำนาม |
A |
– |
lovely |
big |
round |
clean |
new |
pink |
heart-spotted |
Japanese |
fabric |
backrest |
cushion |
จากตารางข้างต้นเมื่อนำมาแต่งประโยคจะได้ดังนี้
=> Kathy found a lovely big round clean new pink heart-spotted Japanese fabric backrest cushion when she tidied her bedroom yesterday.
=>เมื่อวานนี้ขณะที่เคธี่ทำความสะอาดห้องนอนเธอพบหมอนอิงผ้าทอทรงกลมอันใหญ่น่ารักสีชมพูลายหัวใจจากญี่ปุ่นที่ดูใหม่สะอาดสะอ้าน
จากที่เห็นอาจจะดูงงๆ ขึ้นมาบ้างแต่เพราะเมื่อนำมาแปลเป็นภาษาไทยแล้วไม่จำเป็นที่จะต้องแปลจากหลังมาหน้าเสมอไปตามที่รู้กันมา แต่ให้แปลตามความเหมาะสมของรูปแบบประโยคนะครับ
อย่างไรก็ดีเรื่องของ adjective นั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยากและสับสนกันอยู่แล้ว ทั้งนี้ยังมีการเรียงลำดับกันอีกซึ่งก็อาจจะสร้างความสับสนเพิ่มได้ไม่น้อย แต่ถ้าหากหมั่นฝึกฝนเรียนรู้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยครับ